10 วิธีฝึกลูกน้อยห่างจากโรคติดโทรศัพท์

10 วิธีฝึกลูกน้อยห่างจากโรคติดโทรศัพท์
เราคงต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีครอบครัวไม่น้อยที่ปล่อยให้ลูก ๆ อยู่กับโทรศัพท์หลายชั่วโมงต่อวัน
เนื่องจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองไม่มีเวลาที่จะดูแล หรือบางบ้านก็ให้โทรศัพท์ลูกเล่นเพื่อตัดความรำคาญ
ตัดความงอแง ซึ่งรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมเหล่านี้จากผู้ปกครองนั้นส่งผลร้ายต่อลูก ๆ มากเพียงใด
ถึงแม้ว่าการเรียนรู้ในสื่อใหม่นั้นจะเป็นประโยชน์ แต่ข้อเสียของการใช้โทรศัพท์ในเด็กก็มีไม่น้อยเช่นกัน

จากการศึกษามากมายพบว่าวัยเด็กใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมงต่อวันอยู่หน้าจอ และวัยรุ่นใช้เวลากว่า 9 ชั่วโมง
ไปกับโทรศัพท์ ซึ่งผลกระทบจากการใช้สมาร์ตโฟนนั้นกระทบต่อพัฒนาการของเด็กๆ
และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงดังต่อไปนี้

– ปัญหาด้านพฤติกรรม
– ภาวะซึมเศร้า
– รบกวนการนอนหลับ
– ก่อเกิดโรคอ้วน
– ความล่าช้าในการพัฒนาสังคม
– ปัญหาความสนใจและการได้ยิน
– ปัญหาของระบบประสาท 

Global Education หยิบ 10 วิธี
ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ฝึกลูกๆ
ให้ห่างไกลจากโรคติดโทรศัพท์ มาแชร์และเริ่มทำไปด้วยกันค่ะ

1.ชวนทำกิจกรรมที่ได้ออกแรงสัก 15-30 นาที
เนื่องจากเด็ก ๆ เป็นวัยที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนากล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
การนั่งอยู่กับที่เพื่อจ้องโทรศัพท์หลาย ๆ ชั่วโมงนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างยิ่ง
คุณพ่อคุณแม่ควรชวนลูก ๆ ทำกิจกรรมเล็ก ๆ น้อยที่สามารถทำได้ในระยะเวลาไม่นาน
เช่น เดินเล่นสัก 15 นาทีในสวนหมู่บ้าน หรือหากไม่มีพื้นที่ก็สามารถชวนลูกๆ
ออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อภายในบริเวณบ้าน เพื่อให้พวกเขาเรียนรู้ว่า
ร่างกายของเรานั้นจำเป็นจะต้องเคลื่อนไหว และผ่อนคลาย

2.จัดลำดับความสำคัญการใช้งาน
ผู้ปกครองควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าก่อนจะปล่อยให้ลูก ๆ ใช้โทรศัพท์ พวกเขา
จำเป็นจะต้องจัดการหน้าที่ที่ตัวเองต้องทำให้เรียบร้อยเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็น การบ้าน
หรืองานบ้านที่ได้รับมอบหมาย การตามใจให้ใช้โทรศัพท์ได้ตลอดเวลา
จะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมการติดโทรศัพท์มากขึ้น

3.รักษาเวลาในการใช้งานอย่างเข้มงวด
หากให้เด็ก ๆ มีการใช้โทรศัพท์ก็ควรมีระยะเวลาการใช้งานที่ตายตัว โทรศัพท์หลายรุ่น
มีฟังก์ชันพิเศษสำหรับเด็ก คือ สามารถกำหนดเวลาในการเล่นได้ เช่น วันละ 3 ชั่วโมง
หากเล่นเกินระยะเวลาโทรศัพท์จะล็อกทันที ซึ่งส่วนนี้ผู้ปกครองควรบอกกับลูกๆ
ให้เข้าใจตรงกันเรื่องระยะเวลาในการเล่นโทรศัพท์ ซึ่งการมีระยะเวลากำหนดเช่นนี้
จะช่วยฝึกการจัดการเวลาของเด็ก ๆ ทางอ้อมได้ด้วย

4.ไม่ใช้โทรศัพท์เป็นรางวัลหรือแรงจูงใจในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเราจะบอกไปข้างต้นว่าก่อนจะได้รับโทรศัพท์เด็ก ๆ ควรจะทำหน้าที่ของตัวเอง
ให้เรียบร้อยก่อน แต่พ่อแม่ก็ไม่ควรหยิบยกการเล่นโทรศัพท์มาเป็นรางวัลในการทำกิจวัตรประจำวัน
ที่ต้องทำ เพราะอาจสร้างผลเสียต่อลูก ๆ จะกลายเป็นทำให้พวกเขาเข้าใจไปว่าการจะทำอะไรก็ตาม
โดยเฉพาะสิ่งที่พวกเขาควรต้องทำเป็นประจำจะต้องได้รับรางวัลทุกครั้ง ซึ่งบางอย่าง
เช่นการบ้าน และหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว

5.ไม่ใช้โทรศัพท์ระหว่างมื้ออาหาร
สิ่งนี้เป็นอีกเหตุการณ์สำคัญประจำวันที่ผู้ปกครองต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ครอบครัวที่ไม่ได้ร่วมโต๊ะอาหารพร้อมกัน ซึ่งอาจจะมาจากระยะเวลาไม่ตรงกัน จึงจำเป็นต้องให้ลูกๆ
รับประทานอาหารก่อน ควรตรวจสอบและกำชับให้แน่ใจว่า ระหว่างการทานอาหารนั้น เด็กๆ
ไม่ควรที่จะดูโทรศัพท์ไป ทานอาหารไป เพราะนอกจากจะทำให้ติดโทรศัพท์แล้ว เด็กๆ
จะใช้เวลาในการทานอาหารนานขึ้นด้วย อาจเกิดพฤติกรรมอมอาหารจนฟันผุ หรือใช้เวลานาน
จนไม่อยากกินอาหาร สุดท้ายจึงลงเอยด้วยการรับประทานไม่หมด

6.ดื่มด่ำการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมที่มีประโยชน์
โทรศัพท์อาจช่วยให้เด็ก ๆ เพลิดเพลินกับการรับสื่อและความบันเทิง ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย
โดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งความจริงแล้วโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จำกัดอายุการสมัครที่ไม่ต่ำกว่า 15 ปี
แต่ก็มีหลายครั้งที่ผู้ปกครองเป็นผู้สมัครบัญชีให้ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับเด็กสักเท่าไหร่ ดังนั้น
หากต้องการให้เด็ก ๆ ได้รับประโยชน์จากโทรศัพท์ ผู้ปกครองควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย
ด้วยเกมหรือแอปพลิเคชันที่สร้างสรรค์และส่งเสริมการเรียนรู้

7.ตั้งรหัสผ่าน
การตั้งรหัสผ่านโทรศัพท์เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการปิดกั้นการเข้าถึงโทรศัพท์ของเด็กๆ
แต่การตั้งรหัสผ่านอีกนั่นแหละก็เป็นวิธีที่ละเมิดข้อตกลงได้ง่ายที่สุดเช่นกัน เพราะหลายๆบ้าน
มีการตั้งรหัสล็อกโทรศัพท์ไว้ก็จริง แต่สุดท้ายก็บอกรหัสให้กับเด็กๆ รู้อยู่ดี ซึ่งกลายเป็นว่าวิธีนี้
จึงไม่ช่วยอะไรมากนัก ดังนั้น หากผู้ปกครองต้องการใช้วิธีนี้ในการจำกัดเวลาการเล่นโทรศัพท์
ต้องไม่ลืมว่าห้ามบอกรหัสกับเด็กๆ เป็นอันขาด และหากเป็นไปได้ก็ควรหมั่นเปลี่ยนรหัสอยู่เรื่อยๆ

8.อธิบายข้อดีข้อเสียโดยตรง
อย่างไรเสียสีสันสดใสและแอนิเมชันบนหน้าจอโทรศัพท์ก็เป็นสิ่งล่อตาล่อใจชั้นดีที่ดึงดูดเด็กๆ
ให้ชื่นชอบอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่จะห้ามพวกเขาไม่ให้แตะต้องมันโดยเด็ดขาด ผู้ปกครอง
จึงควรที่จะคุยกับพวกเขาโดยตรงให้รู้ถึงผลเสียของการใช้โทรศัพท์มือถือว่าส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร
เพื่อให้พวกเขาเข้าใจและให้ความร่วมมือ โดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ

9.อย่าใช้โทรศัพท์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักใช้โทรศัพท์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนรับประทานอาหาร
ตอนแต่งตัว หรือระหว่างการเดินทางโดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้เด็ก ๆ สงบนิ่งไม่งอแง
แต่การทำเช่นนี้ยิ่งเป็นการส่งเสริมให้เด็ก ๆ อาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวขึ้นหากไม่ได้รับโทรศัพท์มาใช้
ในช่วงเวลาที่เคยได้รับ ผู้ปกครองควรใช้วิธีสอนให้พวกเขารู้จักที่จะรับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง
ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารให้ตรงเวลา และทานให้หมด การแต่งตัวไปโรงเรียนซึ่งเป็นหน้าที่
ที่ต้องทำเป็นประจำ และการเคารพพื้นที่ส่วนรวมด้วยการไม่ส่งเสียงดัง
และไม่วิ่งเล่นเพื่อให้ไม่เกิดอันตราย

10.เป็นแบบอย่างที่ดี
คงไม่มีอะไรจะได้ผลได้ดีที่สุดเท่ากับการ “ทำเป็นตัวอย่าง” อีกแล้ว เพราะเด็กๆ
เรียนรู้จากการกระทำของพ่อแม่มากกว่าคำพูดของพ่อแม่ ดังนั้นพวกเขาจึงมักเลียนแบบพฤติกรรม
ของคุณและคนรอบข้างอยู่เสมอ หากเราเอาแต่บอกพวกเขาว่าอย่าทำอย่างนั้น อย่าทำอย่างนี้
แต่ตัวคุณเองก็ยังคงทำ ยังใช้โทรศัพท์ระหว่างทานอาหาร ยังใช้โซเชียลมีเดียเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ติดกันโดยไม่พักไปทำอย่างอื่นเลย เด็ก ๆ ก็จะซึมซับพฤติกรรมเหล่านี้ และในที่สุด
เมื่อคุณออกคำสั่งกับพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาเองก็คงตั้งคำถามกลับมาว่าแล้วทำไม
คุณถึงทำได้ ซึ่งนั่นก็จะกลายเป็นอีกคำถามที่คุณต้องหาเหตุผลดี ๆ มาตอบพวกเขาให้ได้

—————————————————

ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งสิ้น โทรศัพท์มือถือก็เช่นกัน
เราสามารถที่จะใช้มันเพื่อเข้าถึงการเรียนรู้ที่ไร้ขีดจำกัดได้ มีสื่อดีๆ มากมายที่สร้างสรรค์ขึ้น
ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย แต่ในขณะเดียวกันโทรศัพท์มือถือก็สร้างอันตรายได้เช่นกัน

โดยเฉพาะกับช่องทางที่ไม่เหมาะสม เช่น สื่อโซเชียลมีเดียที่จำกัดอายุ มีเด็กมากมาย
มีพฤติกรรมเลียนแบบบุคคลในโลกออนไลน์ การใช้ท่าทาง การใช้คำพูด
ผู้ปกครองควร ต้องคอยจับตามองอย่างใกล้ชิด
ไม่ปล่อยให้พวกเขาเข้าสู่โลกออนไลน์ ที่ไม่เหมาะสมกับวัย

เพราะเด็ก ๆ ยังมีวุฒิภาวะไม่เพียงพอที่จะแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนไม่ควรทำตาม
ดูแลการใช้งานอย่างระมัดระวัง หมั่นพาพวกเขาทำกิจกรรมอื่นนอกจากการใช้เครื่องมือ
อิเล็กทรอนิกส์บ้าง เพื่อเสริมกิจกรรมที่สมวัย และสร้างสายใยความผูกพันในครอบครัวเพิ่มขึ้น

— ที่มา globaleducatethai.com —

ผลเสียของการให้ลูกเล่นโทรศัพท์ พร้อมคู่มือแนะนำจากองค์การอนามัยโลก
เปิดรับสมัครนักเรียนใหม่ เข้าสู่ครอบครัว เซนต์ปอลฯ